22.ผมผี

นุช…นุชจรีย์ใช่ไหม” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อใครไม่รู้
แต่อยู่ดีๆก็เข้ามาจับแขนของฉัน ซึ่งทำให้ฉันต้องหันไปบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า
ไม่คะ..ฉันไม่ได้ชื่อนุชค่ะ” เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าชัด เธอก็ยังคงเรียกชื่อนั้นเหมือนเดิม นุช..เธอจำฉันไม่ได้เหรอไง เรากาญ กาญจนาที่เราเคยฝึกงานด้วยกันไง” เธอยังย้ำคำเดิม ฉันคิดว่ามันต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ ทำไม่ผู้หญิงคนนั้นต้องเรียกชื่อเราว่านุช..ด้วย
ขอโทษค่ะ..คุณจำคนผิดแล้ว” เมื่อพูดเสร็จฉันก็รีบเดินหนีไปทันที

ฉันเริ่มสงสัยว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนทักฉันผิด มันหลายครั้งแล้วที่มีคนเรียกชื่อนี้”เอ้..มันไม่ใช่ชื่อฉัน ฉันไม่ได้ชื่อนุช แล้วผู้หญิงที่ชื่อนุชเป็นใคร ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับฉันด้วย” ยังเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจฉันตลอดเวลา จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่ฉันนั่งทำรายงานอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นก็เป็นเวลาเกือบเย็นแล้ว ฉันรู้สึกหิวข้าวขึ้นมา เลยบอกให้น้องสาวของฉันทำกับข้าวให้กิน เพราะงานที่ฉันทำยังค้างอยู่ไม่อยากทิ้งไปตอนนี้ ครู่เดียว น้องสาวของฉันยกกับข้าวมาให้ฉัน เดินเข้ามายังไม่ทันจะถึงโต๊ะ ทั้งจานข้าว แก้วน้ำ ทุกอย่างก็หล่นจากมือของน้องสาวของฉันเสียงดังเพล้ง..ทำให้ฉันต้องตกใจรีบ หันกลับไปมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่เห็นก็คือน้องสาวของฉันเป็นลม ล้มลงไปนอนกองกับพื้น
กับข้าวหกกระจายเติมไปหมด ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าน้องของฉันอาจไม่สบาย ฉันจึงช่วยประฐมพยาบาลให้จนรู้สึกตัว และรีบถามอาการทันที “หน่อง…เป็นอะไรไปหรือ”น้องสาวฉันไม่ยอมตอบ เอาแต่จองหน้าฉันจนตาแทบไม่กระพริบ ฉันจึงถามเธออีกครั้ง”เอ้า..ถามแล้วก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่จ้องหน้าพี่อยู่นั้นแหละ ทำไมหน้าพี่มันมีอะไรเหรอ”พี่น้อย..หน่องมีอะไรจะบอก” น้องสาวของฉันเริ่มจะยอมพูด
หลังจากให้ฉันพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน”อะไรล่ะ”
“เมื่อกี้..ตอนที่ถือจานข้าวมาให้พี่นะ หน่องเห็นใครไม่รู้ ผู้หญิงผมยาวๆ ยาวมากเลยนะ มานั่งอยู่ตรงที่พี่ทำงาน ไม่สิเขาเป็นตัวพี่เลย เพราะผู้หญิงคนที่หน่องเห็นนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานไม่ใช่พี่ เธอค่อยๆหันหน้ามาหาหน่อง แล้วหน้าของเธอมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด เลือดไหลนอง หน่องไม่ได้ตาฝาดนะพี่ หน่องมีสติดีทุกอย่าง ใครก็ไม่รู้อยู่ในตัวพี่ น่ากลัวจริงๆ”เมื่อน้องสาวฉันพูดจบ ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องของเธอทันที ปล่อยให้ฉันนั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออก แต่ฉันกลับนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นกับฉันตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งที่มีคนทักผิด เรือกชื่อผิด แล้วนี่น้องสาวของฉันยังบอกว่าเห็นเธอเป็นใครก็ไม่รู้
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?”
แล้วฉันก็พยายามตั้งสติ คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
ว่าความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นกับเธอมันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่”ใช่แล้ว…ฉันนึกออกแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้น หลังจากที่ฉันไปต่อผมมานี่เอง” ในตอนแรกฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรด้วยเลย กะอีแค่ผมทำไม่มันถึงมีเรื่องแปลกๆ ประหลาดๆ อย่างนี้เกิดขึ้นกับฉันด้วย แต่พอคิดกลับไปว่าผมที่ฉันต่อมันเป็นผมของใคร เป็นเส้นไหมสังเคราะห์หรือเป็นเส้นผมของคนจริงๆ ฉันเริ่มไม่แน่ใจ ได้แต่คิด..คิด..และคิดจนสับสนไปหมด ฉันมองตัวเองในกระจก มองเส้นผมที่ดำเป็นวาวนั้น แล้วฉันก็ต้องตกใจ อยู่ๆฉันก็เห็นหน้าของใครก็ไม่รู้มาปรากฎซ้อนที่หน้าของฉัน เป็นผ้หญิงผมยาว ยาวยิ่งกว่าผมของฉันอีก ใบหน้าซีดขาวอาบไปด้วยคราบน้ำตา ฉันหลับตาเพราะรู้สึกกลัวกับภาพที่เห็นตรงหน้า พอฉันลืมตามาอีกครั้ง ใบหน้าที่ปรากฏในกระจกก็กลับเป็นหน้าของฉันเองเหมือนเดิม ฉันโล่งอก เพราะคิดว่าตัวเองอาจคิดมากไปก็ได้แต่ฉันยังคงไม่ปล่อยให้เรื่องมันเป็น อย่างนี้
วันต่อมาฉันกลับไปที่ร้านต่อผมอีกครั้ง ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันให้พี่เจ้าของร้านฟัง
ฉันเห็นสีหน้าของพี่เจ้าของร้านแล้วก็พอจะเดาออกทันทีว่าต้องมีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้นแน่ๆ “พี่..บอกความจริงหนูมาเหอะนะไม่งั้นหนูไม่สบายใจ เป็นพี่ พี่จะทำยังไง”
ฉันเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์เล็กน้อย “ก็ได้…พี่จะเล่าให้ฟัง” พี่เจ้าของร้านพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ และมีสีหน้าสำนึกผิด เรื่องที่พี่เจ้าของร้านเล่าให้ฉันฟังมีอยู่ว่า โดยปกติที่ร้านจะไม่รับซื้อผมของคนจริงๆมาต่อให้ลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นไหมสังเคราะห์แทน แต่ที่แกต้องรับซื้อผมของคนจริงๆนั้นเพราะว่า คนที่นำผมมาขานั้น เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่เจ้าของร้านชื่อนุชจรีย์
วันหนึ่งนุชจรีย์มาทำผมที่ร้าน พี่เจ้าของร้านชมว่าผมของเธอสวยมากสงสัยจะดูแลอย่างดี
นุชจรีย์บอกว่าเธอไว้มา10 กว่าปีแล้ว ไม่เคยตัดเลย เพราะเธอเสียดาย เธอถามพี่เจ้าของร้านว่า”ถ้าเธอขายผมให้ พี่จะซื้อไหม”ตอนแรกพี่เจ้าของร้านจะไม่ซื้อ แต่เธอบอกว่ากำลังร้อนเงิน จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมตัดผมมาขายหลอก พี่เจ้าของร้านเลยใจอ่อนยอมซื้อ ท่าทางของเธอรักและหวงผมมาก ตอนที่ตัดผม น้ำตาเธอไหลตลอดเวลาเลย แต่หลังจากนั้นไม่นาน นุชจรีย์ก็จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พี่เจ้าของร้านบอกว่ารู้สึกสงสารไม่นึกเลยว่าเธอจะโชคร้ายขนาดนี้ พอฉันได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วก็บรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรดี กลัวก็กลัว แต่รู้สึกสลดใจมากกว่า ฉันต้องบอกให้พี่เจ้าของร้านเอาผมที่ต่อออกให้ แล้วฉันก็ชวนพี่เจ้าของร้านไปทำบุญให้เธอ พร้อมกับนำเส้นผมของเธอไปลอยแม่น้ำ โดยหวังว่าเธอคงจะได้เส้นผมแสนรักของเธอคืน