23.ห้องผีมอง

เรื่องจริงจนน่าตกใจที่หมอนวดแผนโบราณอย่าง “จ๋า” ได้พบมานั้นเป็นเรื่องที่เธอจะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต เธอไม่เคยสังหรณ์ใจเลยสักนิดว่าดวงตาที่มองเธอเขม็งจากห้องเช่าติดๆกันทางขวามือนั้น จะเป็นดวงตาของคนที่เธอเคยรู้จักและที่จ้องมองเธอไม่วางตา แม้ความตายมาพรากชีวิตเขาไป
ซ้ำร้ายกว่านั้น ดวงตาอีกคู่ที่จ้องมองจากห้องทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นห้องเช่าของสาวนักเรียนพาณิชย์ก็จ้องมองเธอมาแล้วหลายวัน โดยที่มีสภาพไม่ต่างจากดวงตาคู่ที่มองมาจากห้องทางขวามือ
จ๋าและแมน แฟนหนุ่มของเธอร่วมกันสร้างพฤติกรรมบางอย่างโดยไม่รู้ว่าขณะที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น ทั้งคู่ก็โดนจ้องจากดวงตาที่ไม่ใช่ดวงตาของคนธรรมดามาตลอด
เหตุการณ์สยาองนั้นถูกย้อนเข็มเวลากลับไปสู่ตอนต้น ดังนี้….

สิ่งที่จ๋าคิดไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะคราวต่อมา ถ้าแมนมาหาเธอ ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าบทรักบทใคร่ระหว่างเธอกับเขาย่อมร้อนแรงอยู่แล้ว แต่ที่จ๋าสังเหตเห็นก็คือจะมีดวงตาคู่นึงจากห้องทางขวาจ้องมองผ่านช่องลมระหว่างห้องมาที่เตียงของเธอเสมอ
“เขากำลังได้รับบทเรียนจากเราและแมน” จ๋าคิด ขณะเริงลีลากับแมนไปตามเพลงกาม โดยสังเกตเห็นดวงตาของหนุ่งข้างห้องไปด้วย
แต่ที่น่าลำบากใจก็คือทางช่องลมซีกซ้ายของห้องเธอก็มีสายตาอีกคู่จ้องมาด้วยเช่นกัน มันคงเป็นตาของสาวที่อยากรู้บทชีวิตว่าผู้หญิง (อย่างจ๋า) ต้องทำอะไรบ้างเวลาที่กุ๊กกิ๊กกันอย่างออกรสเช่นนั้น จ๋ารู้เรื่องราวแบบนั้นมาตลอด แต่เธอไม่ได้บอกแมนคู่สวาทของเธอ
ช่วงนึงจ๋ามีแขกมากขึ้นทำให้เธอไม่มีเวลาสนใจเพื่อนร่วมห้องเท่าใดนัก เธอไม่รู้จริงๆว่าความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มข้างห้องกับสาวข้างห้องมัดเกลียวกันแน่นแฟ้นอย่างรวดเร็วและบางทีหลังสองหนุ่มสาวเป็นแฟนกันจริงๆจังๆก็ช้ากว่าคนอื่นๆและสายไปเสียแล้วสำหรับเธอที่อยากจะลองคว้าไอ้หนุ่มอาชีวะมาเป็นแฟน
สิ่งที่เขากับแฟนสาวนักเรียนพาณิชย์ข้างห้องลอกเลียนแบบไปก็คือ…ลีลาบนเตียงที่ทั้งคู่แอบจดจำเอาไปใช้จ๋าเคยคิดแบบนั้น ขณะมีอะไรกับแมนและสายตามองไปเห็นหนุ่มข้างห้องแนบตากั่องลมมองมาเขม็ง
เมื่อพลิกไปทางซ้ายก็พบสายตาของเด็กสาวมองมาที่เธอไม่วางตาเช่นกัน “เชอะ…อย่างน้อยฉันก็ยังมีดีจนพวกเธอเลียนแบบ หรอกน่า” จ๋าคิดเช่นนั้นก่อนจะหันไปสนใจกับเรือนร่างของแมนต่อไป
คืนฝนตกพรำๆคืนหนึ่งจ๋าหิ้วแมนกลับมาที่ห้องทั้งสองสานสัมพันธ์กันอย่างเร่าร้อนท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติค อย่างเคย…จ๋ามองเห็นสายตาของหนุ่มข้างห้องและสาวข้างห้องที่แนบตามองที่เธอเขม็งตั้งแต่ยังไม่เริ่มบทพิศวาสกับแมนด้วยซ้ำไป ช่างน่าภูมิใจเสียนี่กระไร ที่เธอได้เป็น”ต้นแบบ” หรือ”นางเอกประทับใจ”ของหนุ่สาวที่อยากรู้ว่า”บทที่ถูกต้อง”ต้องเริ่มต้นและจบยังไงหรือแม้กระทั่งการใช้ลีลาชีวิตที่มันส์สุดขั้วแบบเธอ
บ่อยครั้งที่จ๋าเห็นว่าตาคู่นั้นมองเธอไม่หยุดผิดสังเกต ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม ตาคู่นั้นมองเธอตั้งแต่กลับยันตื่น มองไปทีไรก็เจอตาจ้องจากด้านซ้ายหรือขวาของผนังห้องตลอด บางทีแม้ไม่มีอะไรน่าจ้องมอง ดวงตาเหล่านั้นก็ยังจ้องมองเธอจากที่เคยรู้สึกพึงพอใจในครั้งแรกๆจ๋าเริ่มรู้สึกโกรธที่ตา2คู่จากคนละฟากห้องยังคงจ้องมองเธอต่อเนื่อง ทั้งๆที่แมนคู่ใจของเธอกลับไปแล้ว
แทนที่เด็กๆพวกนั้นจะออกจากห้องไปเรียนหนังสือและอาจจะได้ทักเธอที่หน้าห้องตอนที่เธอไปส่งแมนที่ประตูบ้าง สายตาเด็กคู่นั้นยังคงจ้องมาที่กลางเตียงนอนของเะอไม่ได้เปลี่ยนแนวเลย
จากที่เคยพอใจในตัวเอง ก็รู้สึกเหมือนโดนละลาบละล้วงเกินเหตุ เธอลองทำอะไรที่น่าเกลียดหลายๆอย่างให้ตาทั้ง2คู่เห็น เป็นต้นว่าโกนขนรักแร้กลางห้อง หรือทำข้าวของตกหล่นแบบตั้งใจให้หล่นโดยไม่มีสาเหตุ ตาคู่นั้นก็ยังมองไม่ห่าง
“บ้ารึป่าวว่ะ มองกรูอยู่ได้ กูชักรำคาญแล้ว” เธอบ่นกระปอดกระแปด ยังดีที่พอช่วงบ่ายก็ออกไปทำผม ทำสวย แต่งเล็บ เลือกหาซื้อเสื้อผ้าสวยๆบ้าง พอตกเย็นก็ออกไปทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณ กว่าจะกลับมาที่ห้องอีกทีก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว
แต่…ดวงตาสองคู่นั้นก็ยังจ้องมองมาที่เธอไม่คลาดสายตา “นี่มันเกินไปแล้วนะโว้ย!!! จะจ้องกูจนไม่ไปทำอะไรบ้างเหรอไง? จ๋าชักโกรธ เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเลขโทรไปหาแมน “ว่างมั้ย” เสียงเธอสั้น ห้วน เพราะอยู่ในอารมณ์โกรธ “ไงจ๊ะหวานใจโทรหาพี่หลังเที่ยงคืนแบบนี้แสดงว่างานเข้าใช่มั้ย?” แมนคิดไปถึงบทพิศวาส
“เธอได้งานแน่ๆ แต่ก่อนจะให้งานเธอฟน่ะ เะอต้อวช่วยฉันทำงานหน่อย” จ๋ากรอกเสียงลงไป
“บอกมาเลย แมนทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” แมนบอก
“มาที่นี่แล้สจะบอก” จ๋าสรุป
ไม่ถึงยี่สิบนาทีแมนก็มาเคาะประตูห้องเรียกจ๋า
ความที่ห่างอกแมนแม้จะสัญญาว่าให้แมนไปจัดการบางอย่างก่อนจ๋าก็อดห้ามใจตนเองไม่ไหวจนต้องกระเถิบไปถึงขั้น”เลยเถิด” จนหมดเรี่ยวหมดแรงนอนก่ายกันอยู่บนเตียง เมื่อมองไปที่ผนังห้องก็พบสายตาน่ารำคาญของหนุ่มสาวข้างห้องจ้องเะอไม่คลาด “มันจะจ้องกูไปห่ตะบักตะบวยอะไรวะ เหลือทนแล้ว” จ๋าพูดออกมาแรงๆ
จากนั้นเธอก็บอกให้แมนรู้ว่ามีสายตาหนุ่มข้างห้องจ้องอยู่ชัดๆ แมนเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังโป๊ก็คราวนั้น เขาโกรธจนควันออกหู ที่จริงลึกๆแล้วต้องการจะแบล๊คเมล์ ไอ้หนุ่มข้างห้องมากกว่ากะจะเอาเรื่องนั้นไปขู่ แล้วรีดเงินทุกครั้งที่มาหาจ๋า แบบนั้นน่าจะดีกว่า
“จุ๊ๆจ๋า พี่มีวิธีหาเงินที่ดีกว่านั้น” แมนเปลี่ยนแผน ว่าแล้วก็บรรเลงเพลงรักกับจ๋าอิดรอบ แต่คราวนี้ตั้งกล้องถ่าย สายตาคู่นั้นลงไปด้วย เป็นฉากว่ามีคนแอบดู เป็นเด็กข้างห้องแบบดิ้นไม่หลุดคราวนี้หล่ะเมิงเอ๊ย….เงินทองไหลมาเทมาแน่ๆ
พอมันใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย คราวนี้แมนทำกร่างผิดหูผิดตา เขารีบแต่งตัวแบบลวกๆ แล้วกระซิบบอกจ๋า จ๋าเห็นดังนั้น ก็โอเคและก็ยินดีเพราะอย่างน้อยก็มองดูเขาจนเปลืองตัวมาตลอด งั้นขอค่าดูบ้างและกัน ทั้งสองคนเดินไปที่ห้องข้างๆและเคาะประตูเรียกดังมาก แต่ไม่มีใครมาเปิด จนเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงออกมากันหมด พอมีคนมุงมากขึ้น แมนกับจ๋าก็เล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านต่างก็เคียดแค้น และช่วยกันพังประตู จนกระทั่งได้พบภาพสลดใจคลายสงสัยโดยสิ้นเชิง
สิ่งที่เห็นในห้องของหนุ่มอาชีวะก็คือ… ร่างของเขาผูกคอตายด้วยตัวเอง และคงตายมาหลายวันแล้ว ที่ปลายเท้ามีจดหมายลาตาย รำพันถึงความรักที่มีต่อสาวพาณิชย์ข้างห้องและไม่สมหวังในรักเช่นกัน
เมื่อพังประตูห้งอสาวพาณิชย์เข้าไปก็พบว่าเธอผูกคอตายแบบเดียวกับหนุ่มอาชีวะเพราะน้อยใจในความรัก มีจดหมายบอกลาตายทิ้งไว้ให้อ่านเป็นหลักฐาน
ตำรวจ แพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรีบมาที่เกิดเหตุและร่วมกันสอบหาสาเหตุต่างๆทำให้รู้ว่าเด็กหนุ่มสาวมีปัญหาเรื่องรักจริงๆ และคิดสั้นผูกคอตายไปหลายวันแล้ว โดยขื่อที่ผูกคอนั้นอยู่ในระด้บสูง และทำให้สายตาของทั้ง คู่อยู่ในระดับของช่องลมพอดี แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดทำให้ตาของแต่ละคนจ้องไปที่ห้องจ๋ามาตลอด
ไม่แปลกที่คนที่แทบบ้าก็คือจ๋า… เธอไม่รู้ตัวว่าถูกผีมองอยู่หลายวัน แถมยังคิดร้ายจะแบล็คเมล์พวกเขาอีกด้วยซ้ำไป
สำหรับแมนยิ่งซวยหนักข้อ เพราะแทนที่จะได้ขู่เอาเงินจากเด็กบ วัยรุ่น ตัวเอง กลับถูกเมาียสอบถามว่าทำไมถึงไปโผล่ที่บ้านหมดนวดแผนโบราณอย่างจ๋าหลังเที่ยงคืน จนเป็นข่าวใหญ่แบบนั้น
และที่ลึกไปกว่านั้นก็คือ แมนไม่กล้าสบตาสองคู่นั้น แม้จะเเป็นศพไปแล้วก็ตาม เขารู้ดีอยู่ว่าคิดอะไรไม่ดีกับสายตาพวกนั้น
จากวันนั้น จ๋ารีบย้ายออกไปก่อนเช้าตรู่ ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน แต่ที่สำคัญคนอย่างจ๋าและแมนไม่มีวันลืมสายตาสองคู่จากช่องลงไปตลอดชั่วชีวิต!!!